ถ้าใครหลายๆคน เบื่อกับการที่ต้องตื่นแต่เช้าเพื่อไปเรียนหนังสือ หรือเข้าเรียนให้ทัน ไหนจะต้องนั่งรถเมย์ที่ติดยามเข้า หรือคุณพ่อและคุณแม่ขับรถไปส่ง นั้นลำบากหรือเป็นเรื่องที่น่าเบื่อแล้วละก็ ลองมาพบกับ 23 การเดินทางไปโรงเรียนที่อันตรายที่สุดในโลก นี้กันหน่อย แล้วหลายๆคน จะเห็นได้ว่าชีวิตเราสบายแค่ไหน ถ้ายังจะขี้เกียจอยู่เหมือนเดิม ลองไปอยู่โรงเรียนใน 23 ที่นี้กันหน่อยแล้วจะเข้าใจว่าการเดินทางของเรานั้นสบายกว่าเป็นไหนๆ
23 การเดินทางไปโรงเรียนที่อันตรายที่สุดในโลก
การศึกษาไม่ว่าจะประเทศไหนๆ ล้วนก็ให้ความสำคัญเหมือนกันทั้งนั้น แค่ขึ้นอยู่กับว่าประเทศไหนจะมีการพัฒนาในเรื่องนี้มากน้อย หรือรวดเร็วมากกว่ากัน อย่างที่เราๆ เคยเห็นกันในประเทศที่ความเจริญเข้าถึง การศึกษานั้นก็มาเต็มรูปแบบทั้งสื่อการเรียนการสอน การบูรณาการการเรียน เครื่องไม้เครื่องมือ อุปกรณ์มีครบครัน รวมถึงที่ตั้งของโรงเรียนก็มักจะเป็นที่กลางใจเมือง หรือมีการเดินทางที่สะดวกสบาย แต่ในบางประเทศ บางพื้นที่ที่ความเจริญเข้าไม่ถึง อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องอุปกรณ์การเรียน หรือสื่อการสอนเลย แค่การเดินทางก็ลำบากสุดๆ แล้วเหมือนกัน แต่ด้วยความที่เด็กๆ และครอบครัวเห็นเรื่องการศึกษาเป็นเรืองสำคัญ ถึงลำบากแค่ไหนก็ยอม ..
1. โรงเรียนประถมในหมู่บ้าน Gulu ในภาคตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศจีน โรงเรียนประถม BANGO มีจำนวนเด็กนักเรียน 49 คน มาจากหลายๆ หมู่บ้าน เด็กนักเรียนต้องเดินทางผ่านเส้นทางภูเขา หน้าผาสูงชัน นานกว่า 5 ชั่วโมง ซึ่งขนาดของความกว้างของถนนเพียง 1 ฟุตเท่านั้นเอง ต้องเดินทางเป็นทางขึ้น-ลงภูเขา หน้าผาสูงชัน และเต็มไปด้วยหินแทบทั้งนั้น ต้องเดินลัดเลาะตามเทือกเขาที่คดเคี้ยว และทางแคบๆ ซึ่งนับว่าอันตรายที่สุด! โรงเรียนแห่งนี้ยังถูกยกให้เป็น “The Most Remote School In The World” (โรงเรียนที่ไกลที่สุดของโลก) อีกด้วยคะ
2. ในมณฑลเสฉวน ประเทศจีน เด็กนักเรียนในหมู่บ้าน Zhang Jiawan นี้ต้องเดินทางโดยการปีนป่ายบันไดไม้ ไปโรงเรียนที่ตั้งอยู่บริเวณหน้าผาที่ 2,800 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล โดยที่ไม่มีหลักประกันรองรับอุบัติเหตุใดๆ ทั้งสิ้น เด็กนักเรียนจะอยู่ที่โรงเรียนเป็นเวลา 1 สัปดาห์ และจะกลับบ้านในทุกวันหยุดของสัปดาห์ ต่อมาบันไดไม้ก็ถูกรับปรุงเป็นบันไดเหล็กซึ่งมีความแข็งแรงกว่า ทำให้มีความปลอดภัยขึ้นมาอีกขึ้นหนึ่ง
นอกจากนี้ยังมี โรงเรียนประถมในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ในมณฑล Guizhou ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศจีน ต้องเดินทางขึ้นเขาเพื่อไปยังโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในถ้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติเป็นเวลากว่าพันปี
3. ประเทศอินเดีย เด็กต้องเดินทางเพื่อจะไปโรงเรียนประจำ โดยใช้เส้นทางผ่านเทือกเขาหิมาลัย
4. Lebak ในประเทศอินโดนีเซีย เด็กนักเรียนต้องเดินทางข้ามแม่น้ำ โดยข้ามสะพานแขวนที่ชำรุดเสียหาย อันตรายเกิ๊น >,< แต่หลังจากที่ข่าวออกมา ทางการของอินโดนีเซียก็ได้ทำการสร้างสะพานที่ทำจากเหล็กแบบแข็งแรงขึ้นมาใหม่ เพื่อให้เด็กนักเรียนในหมู่บ้านนี้เดินทางไปโรงเรียนได้อย่างปลอดภัย
5. ประเทศโคลัมเบีย เด็กนักเรียนในหมู่บ้านห่างไกล ต้องเหาะเหินบนสายเคเบิ้ลผ่านหุบเขา ยาวกว่า 800 เมตร ที่อยู่เหนือแม่น้ำ Rio Negro เพื่อข้ามฝั่งไปยังโรงเรียน
6. Riau ในประเทศอินเดีย เด็กนักเรียนต้องพายเรือแคนูผ่านแม่น้ำสายหลักไปยังโรงเรียนของพวกเขา
7. ประเทศอินเดีย เด็กนักเรียนเดินทางผ่านหุบเขา ข้ามรากต้นไม้ใหญ่ ไปโรงเรียน RCLP ในหมู่บ้าน Nongsohphan ซึ่งเกิดจากการที่คนในหมู่บ้านนั้นปลูก เพาะบ่ม เสริมสร้างรากต้นไม้ เมื่อวลาผ่านไปรากต้นไม้ก็งอกงามกลายมาเป็น “สะพานแห่งชีวิต”
8. ในประเทศพม่า ในบางพื้นที่ที่ยังไม่เจริญ เด็กนักเรียนนั้นต้องขี่ควายไปโรงเรียนที่อยู่ระยะทางไกล
9. ในเมืองนิวเดลี ประเทศอินเดีย เด็กนักเรียนหลายชีวิต นั่งเกวียน (ใช้ม้าลาก) ขณะกำลังเดินทางจากโรงเรียนกลับบ้าน
10. โรงเรียน Dujiangyan มณฑลเสฉวน ในประเทศจีน เด็กนักเรียนต้องเดินทางข้ามสะพานไม้ที่อยู่ในสภาพหัก-ชำรุดมาก ที่เกิดจากภัยภิบัติธรรมชาติ พร้อมบรรยากาศที่เหน็บหนาวจากหิมะตก เพื่อเดินทางไปยังโรงเรียน
11. ใน Pangururan ประเทศอินโดนีเซีย เด็กนักเรียนนั่งเรือข้ามแม่น้ำเพื่อมายังโรงเรียน ถ้าในเรือมีนักเรียนนั่งเต็ม คนที่เหลือก็ต้องมายืนบนหลังคา หรือส่วนอื่นๆ ของเรือแทน
12. Century Galle Fort ในประเทศศรีลังกา นักเรียนหญิงต้องเดินข้ามไปโรงเรียนโดยใช้ไม้กระดาน ที่นำมาจากกำแพงในศตวรรษที่ 16
13. ใน Kerala ประเทศอินเดีย นักเรียนเดินทางไปโรงเรียนโดยเรือ
14. ใน Beldanga ประเทศอินเดีย เด็กนักเรียนนั่งรถตุ๊กๆ (รถลาก) เก่าๆ ไม่มีที่นั่งพอสำหรับทุกคนไปโรงเรียน
15. เด็กนักเรียนยากจน อาศัยอยู่ในหมู่บ้าน Cilangkap ในจังหวัด Banten ประเทศอินโดนีเซีย ต้องเดินทางไปโรงเรียนข้ามแม่น้ำ Ciherang โดยใช้แพไม้ไผ่แคบๆ เป็นเวลามากกว่า 10 เดือน เนื่องจากสะพานข้ามแม่น้ำเกิดพังเสียหายจากเหตุการณ์น้ำท่วม และทางการท้องถิ่นก็ยังไม่ได้แก้ไขจึงต้องใช้แพนี้ชั่วคราว (10 เดือนก็ไม่ชั่วคราวละนะ >,<) ส่วนเด็กบางข้ามแม่น้ำด้วยการเดินเท้าก็มี
16. นักเรียนจำนวน 80 คน ต้องเดินทางระยะไกลแถมยากลำบากกว่า 125 ไมล์ (กว่า 40 กม.) ผ่านเทือกเขาของนักเรียนเพื่อเดินทางไปโรงเรียนประจำ (กินนอน) ในมณฑล Pili ประเทศจีน อีกทั้งยังต้องข้ามผ่านแม่น้ำถึง 4 สาย ซึ่งระยะการเดินทางของเด็กๆ โรงเรียนนี้รวมแล้วใช้เวลาถึง 2 วัน!!
17. ในเกาะสุมาตรา ในประเทศอินโดนีเซีย ในทุกๆ วัน เด็กนักเรียนกว่า 20 คนต้องเดินทางไปโรงเรียนใน Pinto Gabang โดยการไต่เชือก (ที่จริงแล้วเป็นสะพานข้ามแต่ชำรุดอย่างหนักจากการที่ฝนตกอย่างหนัก) สูงกว่า 30 ฟุต (9.1เมตร) ข้ามแม่น้ำปาดัง หลังจากข้ามแม่น้ำแล้วก็ต้องเดินทางไกลอีก 11 ไมล์ผ่านป่ากว่าจะไปถึงโรงเรียน ..
18. โรงเรียนประถมในจังหวัด Rizal ทางตะวันออกของกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เด็กนักเรียนต้องเดินทางไปโรงเรียนโดยการใช้ห่วงยางอันใหญ่นั่งข้ามฝั่งไปยังโรงเรียน (อันตรายไปไหมเนี่ยหนูๆ >,<) ซึ่งตอนนี้ได้ร้องเรียนรัฐบาลท้องถิ่นให้ทำขึ้นสะพานแขวนขึ้น เพื่อที่จะทำให้เด็กๆ เดินทางข้ามแม่น้ำไปเรียนได้เร็วขึ้นและปลอดภัยมากขึ้นกว่านี้
19. โรงเรียน Macheng ในมณฑลหูเป่ย์ ประเทศจีน มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 5000 คน แต่อุปกรณ์โต๊ะเรียนนั้นมีแค่ 3000 ตัวเท่านั้น ไม่เพียงพอแก่เด็กนักเรียน ทำให้เด็กนักเรียนที่เหลือกว่า 2000 คนนั้นต้องแบกโต๊ะเรียนของพวกเขา ซึ่งอาจจะเป็นของตั้งแต่รุ่นพ่อ-แม่นั้นแบกไปโรงเรียนเองในวันเปิดเทอมเรียนวันแรก
20. ในเขตปกครองตนเอง มณฑล Guangxi Zhuang ภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เด็กนักเรียนที่อาศัยอยู่ในแทบภูเขาต้องเดินทางระยะไกลมากๆ เพื่อจะมายังโรงเรียนที่อยู่ในหมู่บ้านซึ่งอยู่ห่างไกลบ้านของพวกเขา เด็กๆ ส่วนใหญ่จะประจำอยู่ที่โรงเรียนเป็นปีๆ และจะได้กลับบ้านในช่วงปิดเทอม ภาคฤดูร้อน หรือวันหยุดต่างๆ
21. เพื่อให้ได้ไปโรงเรียนทุกวัน เด็กๆ ในหมู่บ้านบนภูเขา ในประเทศจีนต้องเดินทางหลายร้อยเมตรผ่านหุบเขาที่ลึกชัน โดยใช้รถเคเบิ้ลที่ทำกันขึ้นมาเองในหมู่บ้าน ซึ่งก่อนหน้านี้ต้องการเดินทางโดยการเดินเท้าและใช้เวลา 5 ชั่วโมง
22. โรงเรียนประถม Omika เป็นโรงเรียนที่ตั้งอยู่ใกล้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Fukishima Daiichi ซึ่งเคยมีคนตายจากแผ่รังสีที่มาจากโรงงานนี้ มีนักเรียนจำวน 91 จากเดิม 205 นักเรียนยังคงเรียนอยู่ที่นี่ และที่โรงเรียนแห่งนี้จะมีตัววัดรังสีแสดงให้นักเรียนเห็นอีกด้วย “อย่าเข้ามาใกล้นะ อันตราย” เอิ่บ .. เดินทางว่าลำบากแล้ว ต้องมาเจอรังสีอำมหิตอีกหรอนี่ >.<
23. เด็กนักเรียนชาวเวียดนาม ต้องว่ายน้ำข้ามแม่น้ำที่มีความกว้าง 15 เมตร มีความลึกกว่า 20 เมตร ถึงวันละ 2 ครั้ง โดยเด็กๆ แก้ผ้าเปลือยเปล่าว่ายข้ามแม่น้ำ นำชุดนักเรียน หนังสือ กระเป๋าใส่ไว้ในถุงพลาสติกกันเปียกน้ำ
credit: teen.mthai
เป็นไงกันบ้างครับกับการเดินทางที่น่าหลาดเสียว ผมว่าทุกวันนี้ที่เราบ่นว่า เบื่อ ลำบาก ลองเทียบกับ 23 ที่นี้ดูแล้วผมว่ามันสบายกว่ากันเยอะมากเลยนะครับ ก็ใครที่ยังคิดว่ามันยังยากไปอยู่ลองปรับทัศนคติดูใหม่นะครับ เพราะถ้าแค่นี้ลำบากแล้วพ่อกับแม่ที่ทำงานส่งเรามาเรียนนั้นลำบากกว่าแน่นอนครับ ใช้ชีวิตในวัยเรียนให้สนุก เก็บเกี่ยวความรู้ให้มีเยอะๆ แล้วพบกันใหม่นะครับกับ MySimpleDiary ชีวิตง่ายๆแค่คิดบวก สวัสดีครับ
เป็นไงกันบ้างครับกับการเดินทางที่น่าหลาดเสียว ผมว่าทุกวันนี้ที่เราบ่นว่า เบื่อ ลำบาก ลองเทียบกับ 23 ที่นี้ดูแล้วผมว่ามันสบายกว่ากันเยอะมากเลยนะครับ ก็ใครที่ยังคิดว่ามันยังยากไปอยู่ลองปรับทัศนคติดูใหม่นะครับ เพราะถ้าแค่นี้ลำบากแล้วพ่อกับแม่ที่ทำงานส่งเรามาเรียนนั้นลำบากกว่าแน่นอนครับ ใช้ชีวิตในวัยเรียนให้สนุก เก็บเกี่ยวความรู้ให้มีเยอะๆ แล้วพบกันใหม่นะครับกับ MySimpleDiary ชีวิตง่ายๆแค่คิดบวก สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น