วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2557

เป็นมิตรกับความทุกข์

“ความทุกข์” เป็นสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยแบ่งแยกใครอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติและศาสนา เป็นสิ่งสากลที่มนุษย์ทุกคนบนโลกใบนี้มีความเท่าเทียมกันอย่างแท้จริง ทุกข์ของเราเป็นอย่างไร ทุกข์ของคนอื่นก็เป็นเช่นนั้น สิ่งที่ทำให้เราเกิดทุกข์ ก็ไม่ได้แตกต่างจากของคนอื่น...และเรื่องนี้ควรย้ำเตือนให้เรามีความเป็นมิตร ความเป็นเพื่อน มอบความรักความเข้าใจ ความหวังดี และเมตตาให้กับผู้อื่นอย่างจริงใจอยู่เสมอโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนใดๆ แค่จิตใจที่อ่อนโยนของคุณก็เยียวยาทั้งตัวเองและผู้อื่นได้อย่างมหาศาล 

วิธีจัดการกับความทุกข์ของผู้คนบนโลกใบนี้...เป็นหนึ่งเดียวเสียยิ่งกว่าความทุกข์ เมื่อมีทุกข์...ทุกคนอยากจะไปให้พ้นจากสภาพนั้น ไม่ต้องการ ผลักใส ทำสิ่งต่างๆ เพื่อให้ลืมมัน แต่จะดิ้นรนสักเท่าไร ก็ไม่อาจหนีพ้น หรือ ห้ามไม่ให้ทุกข์เกิดได้เลย แทนที่จะหนี ทำไมเรา...เราไม่อยู่ร่วมกับเขาอย่างเข้าใจเล่า?

“...คนเรานั้นเมื่อมีอะไรมากระทบใจ ทำให้รู้สึกเป็นทุกข์ เรามักทำอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ จัดการกับมัน หรือไม่ก็หนีไปไกลๆ เช่น ถ้าเจอเสียงดังก็หาทางระงับเสียงนั้น หรือไม่ก็เดินห่างจากเสียงนั้น แต่บ่อยครั้งที่เราอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่สามารถทำทั้งสองอย่างได้ หรือทำแต่ไม่สำเร็จ...สิ่งที่ตามมาก็คือความทุกข์ หลายคนมักมองว่าที่ตนทุกข์นั้นเป็นเพราะเสียงดังกล่าว แต่แท้จริงแล้ว สาเหตุแห่งความทุกข์อยู่ที่ใจของตนเองต่างหาก นั่นคือความรู้สึกปฏิเสธ ผลักไส ชิงชัง...เสียงนั้น ยิ่งรู้สึกลบต่อเสียงนั้นมากเท่าไร ก็ยิ่งทุกข์มากเท่านั้น บางคนถึงกับคุมอารมณ์ไม่อยู่ ออกไปทะเลาะวิวาทกับเจ้าของเสียง ซึ่งอาจเป็นเพื่อนบ้านที่กำลังเลี้ยงฉลอง หรือเปิดเพลงดัง บางกรณีถึงกับฆ่ากันตายเพราะเหตุดังกล่าว 

ในชีวิตของเรานั้นมีอะไรต่ออะไรอีกหลายอย่างที่รบกวนจิตใจ ไม่ใช่แต่เสียงประหลาดเท่านั้น ในบรรดาสิ่งรบกวนเหล่านั้นมีมากมายที่เรามิอาจหนีพ้นหรือจัดการกับมันได้ อย่างน้อยก็ช่วงระยะเวลาหนึ่ง ดังนั้น แทนที่จะตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับมัน จะไม่ดีกว่าหรือ หากเราทำใจให้เป็นมิตรหรือรักกัน เพราะนั่นคือหนทางเดียวที่จะช่วยให้เราอยู่กับมันอย่างมีความสุข ไม่ว่าสิ่งนั้นจะเป็นงานการ ภูมิอากาศ การจราจรที่แน่นขนัด หรือแม้แต่รูปร่างทรวดทรง "

Credit: 
womenshealththailand

แล้วกลับมาพบกันใหม่กับ MySimpleDiary ชีวิตง่ายๆแค่คิดบวก สวัสดีครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น