ผมคิดว่าเรื่องนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนนะครับ งานประจำ กับ งานฟรีแลนซ์ งานประจำนั้นเป็นกับดักจริงหรือปล่าว คุณที่ทำงาน 2 แบบนี้คิดว่าจริงหรือปล่าว ลองอ่านเรื่องนี้ดูครับ
เราเคยทำงานฟรีแลนซ์มา3ปี แต่มีโอกาสได้กลับไปทำงานแบบได้เงินเดือน
เพราะเป็นบริษัทเท่ๆที่เราเคยอยากอยู่มานานแล้ว
ด้วยความที่เราเสพติดอิสระในวันธรรมดา ไม่ต้องเจอรถติด
และไม่ต้องแย่งกันเที่ยวตอนวันหยุด
ทำให้เราลังเลในการกลับไปเป็นมนุษย์เงินเดือนมาก
แต่แล้วเราก็ลองกลับไปอีกครั้ง
หลังจากทำไปได้อาทิตย์นึง เราค้นพบว่าเรามีอะไรเปลี่ยนไปหลายอย่างมาก
และเราก็เริ่มเข้าใจมนุษย์เงินเดือนขึ้นมาก
1.เราพบว่า ใช้เงินเยอะขึ้น เพราะทุกครั้งที่อยากได้อะไร
ก็ไม่ต้องคิดอะไรมาก เพราะเด๋วก็ได้เงินเดือนแล้ว
ไม่ต้องกังวลเหมือนตอนเป็นฟรีแลนซ์ ที่รายได้ไม่สม่ำเสมอ เรารู้ตัวอีกที ก็พบว่ารูดบัตรซื้อเสื้อผ้าไปเป็นสิบตัว
ตอนเป็นฟรีแลนซ์จะคิดตลอดว่า ชุดนี้ซื้อไปแล้วใส่ทำงานได้มั้ย
ชุดนี้ทำให้เราสวยขึ้น รายได้เพิ่มมากขึ้นรึป่าว
ทำให้เราคิดรอบคอบก่อนจะตัดสินใจซื้ออะไร
เราเข้าใจแล้วว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนถึงเผลอใช้เงินง่ายๆ
ก็เพราะมันมีเงินในอนาคตรออยู่ทุกเดือน ใช้หมดเด๋วก็มาใหม่
2.เรากลับมาต้องการสิ่งบันเทิงในชีวิต
ตอนเป็นฟรีแลนซ์ เราแทบไม่ต้องการดูหนัง ท่องเที่ยว
หรือพึ่งพาสิ่งของภายนอกมาปรนเปรอความสุขเลย
ไม่ต้องเดินทางท่องเที่ยวก็ได้ เพราะรู้สึกว่าได้ทำงานที่รัก
งานที่อิสระตามใจเรา ก็เหมือนได้พักผ่อนอยู่แล้ว
ไม่เคยเครียดจนต้องการเสียเงินซื้อความสุขเลย
นั่งเฉยๆก็มีความสุขแล้ว
แต่พอเราทำงานประจำ เราเหมือนทำงานให้องค์กร
เราไม่ได้ทำงานที่เป็นงานที่เป็นตัวของเรา
มันทำให้เรารู้สึกเหมือนใช้เวลาทำงานให้คนอื่นๆ
สมองเราเลยสร้างกิเลสว่าไปพักผ่อนเพื่อตัวเองเถอะ
ทำให้คนอื่นแล้ว ต้องให้รางวัลตัวเองบ้าง
ซึ่งจริงๆแล้วเราควรทำทุกอย่างเหมือนบริษัทนี้เป็นของเรา
เราจะได้ไม่รู้สึกว่าทำให้ใคร แต่ทำเพื่อตัวเรา
(เราเคยเข้าใจวิธีคิดแบบนี้นะ แต่พอทำงานประจำจริงๆ
เราก็แอบเผลอคิดเหมือนคนทั่วไปโดยปริยาย
ว่า8:00-17:00 เป็นเวลาทำงานให้บริษัท หลังจากนั้นต้องพัก
ซึ่งตอนเป็นฟรีแลนซ์ไม่เคยคิดเลยว่าตอนไหนต้องพัก
รู้สึกตลอดว่าเวลาพักก็หาเงินได้ไม่จำกัดเวลา
และทุกเวลาทำงานเพื่อตัวเองทั้งนั้น ไม่ได้ทำให้ใคร
เราทำงานดี คนอื่นก็จ้างเราอีกต่อไปเรื่อยๆ)
เราเลยรู้ว่า มนุษย์เงินเดือนต้องเสียเวลาไปเยอะมากเพื่อปรนเปรอความสุข
หาสิ่งบันเทิงชดเชยความรู้สึกว่าเราทำงานให้คนอื่นมาทั้งวันแล้ว
แล้วมนุษย์เงินเดือนก็ไม่มีอารมณ์จะไปหางานใหม่ เพราะรู้สึกเหนื่อยมาก และไม่อยากต้องเหนื่อยเพิ่มกับสิ่งที่ไม่รู้จะได้ตังค์รึเปล่า
ตอนนี้ได้เงินอยู่ก็ดีแล้ว อยู่ในวังวนนี้ไปเรื่อยๆ
3.เราเริ่มไม่พัฒนาตัวเองอ่านหนังสือดีๆด้านอื่นๆ
เราเริ่มพบว่าตัวเองไม่มีอารมณ์อ่านหนังสืออื่นๆ
ไม่มึอารมณ์พัฒนาตัวเองเพราะรู้สึกว่า ทำแค่นี้ก็ได้เงินเดือนเยอะแล้ว
คืออยู่ไปเรื่อยๆแบบนี้ก็ดีอยู่แล้ว
ไม่มีเหตุจำเป็นให้ต้องเก่งขึ้น
(คือเงินเดือนเราได้ประมาณ7หมื่น และงานก็เป็นงานroutine
แต่ตอนเป็นfreelanceก็ได้พอๆกัน
แต่ต้องกังวลตลอดเวลาว่าเดือนหน้างานจะหดมั้ย)
ทำให้จากที่เราเคยต้องพัฒนาตลอดเวลาเพื่อให้เก่งกว่าฟนีแลนซ์คนอื่นๆ
กลายเป็นเราไม่เอาเวลาไปพัฒนาตัวเองเหมือนเมื่อก่อน
แต่กลับเอาเวลาไปตามใจกิเลสต่างๆเพื่อบอกกับตัวเองว่าพักบ้าง
ตอนเป็นฟรีแลนซ์ไม่เคยต้องการเวลาพักเลย
เพราะเหนื่อยบนความสุข
เวลาพักก็คือเวลาอ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง
4.เราคิดว่าชีวิตนี้แน่นอน
เพราะเรามีงานประจำ ทุกอย่างมีความมั่นคง
เราก็เริ่มประมาทในชีวิต ใช้ชีวิตแบบไหลไปเรื่อยๆ
ไหลไปตามงานของบริษัทที่กินเวลาถึง8ชม.ต่อวัน
เราไม่ต้องวางแผนอะไรกับชีวิต
ทำงานไปเรื่อยๆ รอรับเงินเดือนอย่างเดียว
หยุดสร้างอาวุธทางปัญญาในการหารายได้ทางอื่นๆ
จะไปมัวหาทำไม ก็งานประจำเงินเดือนก็เยอะอยู่แล้ว
เราประมาทในชีวิตว่ามันแน่นอนมากขึ้นเรื่อยๆ
5.เราทำงานแบบไม่กระตือรือร้น
ทำงานแบบรอเจ้านายสั่ง
เพราะเราขายเวลา8โมงเช้าถึง5โมงเย็นให้นายไปแล้ว
อยากให้ทำอะไรเพิ่มก็บอก ไม่บอกก็อยู่เฉยๆ
แต่ตอนเป็นฟรีแลนซ์จะกระตือรือร้นมาก สร้างสร้างสรรค์ไอเดีย ช่วยลูกค้าคิดงานตลอด
เรียกได้ว่าทำเกินหน้าที่ อะไรที่ทำสามารถนำเสนอได้
ก็งัดมาหมด จัดเต็มตลอด ไม่เคยกั๊ก กลัวเค้าจ้างเราไม่คุ้ม
แต่พอทำงานประจำ กลับไม่อยากทำเยอะ เพราะทำมากน้อยก็ได้เท่าเดิม
เราเผลอคิดแบบนี้ไปตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้
แต่รู้ว่ามันเปลี่ยนไปแบบแย่ลงอย่างน่ากลัว
นี่เป็นเพียงบางข้อที่เราสังเกตตัวเองและคิดออก
และรู้สึกสะพรึงถึงกับดักของงานประจำรายได้แน่นอนเอามากๆ
ส่วนด้านแย่ๆอื่นๆของการทำงานประจำ
ก็ทำให้เราต้องเผชิญกับเรื่องน่าเบื่อที่เราไม่เคยเจอมานานมาก
เช่นรถติด เราต้องตื่น6โมง เพื่อเจอรถติด2ชั่วโมง
ทั้งๆที่ปกติตื่นกี่โมงก็ได้ เดินทางตอนสายรถวิ่งฉิว
ถ้าเราจะเป็นมนุษย์เงินเดือนต่อไป
เราต้องเอาหัวใจตอนเป็นฟรีแลนซ์กลับมาใช้
คือ คิดก่อนใช้เงิน
พัฒนาตัวเองตลอด
อ่านหนังสือพัฒนาตัวเอง
หยุดตามใจกิเลส
มีความสุขในงานที่ทำ
ทำงานให้เต็มที่เหมือนเป็นบริษัทตัวเอง
แล้วเงินก็จะไหลมาเทมา
เราเขียนไม่ได้ยาวมากเพราะพิมพ์บนมือถือ
ใจจริงอยากเรียบเรียงให้ดีกว่านี้
เพื่อให้มนุษย์เงินเดือนได้มองเห็นกับดักนี้
แล้วจะได้หลุดจากวงจรนี้
เราเข้าใจมากขึ้นเลยอ่ะ
ว่าทำไมมนุษย์เงินเดือนหลายคนความคิดแคบๆ
มองไม่เห็นทางออกจากวงจรนี้ เพราะไม่ได้เริ่มพัฒนาตัวเอง
เอาจริงๆ เรามีภาคสองของชีวิตอีก
ความรู้สึกช่องการกลับมาเป็นฟรีแลนซ์อีกครั้ง
ไว้อยากเล่าจะมาพิมพ์ใหม่นะ
ไม่ชอบพิมพ์บนมือถือเลย
Credit:Pantip
ขอบคุณทุกคนที่อ่านนะครับ ผมหวังว่าเรื่องนี้จะเป็นประโยชกับทุกคนนะครับ ขอให้มนุษย์เงินเดือนหลุดกับดักทุกคน แล้วพบกันใหม่ที่ MySimpleDiary ชีวิตง่ายๆแค่คิดบวก สวัสดีครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น